ถอดความนัยจากนิยายสู่ประวัติศาสตร์ "สุริยวรรมัน"
“สุริยวรรมัน” คือชื่อนวนิยายอิงประวัติศาสตร์เขมร
ผลงานชิ้นเอกอีกเรื่องหนึ่งของศิลปินแห่งชาติ ทมยันตี
นิยายเรื่องนี้เป็นเสมือนภาพจินตนาการของพระเจ้าสุริยวรมันที่ ๒ ในมุมที่แสนจะโรแมนติก |
หากใครที่ได้อ่าน สุริยวรรมัน แต่ยังไม่ได้ศึกษาประวัติศาสตร์เขมร นอกจากจะซาบซึ้ง ไหลหลง ไปกับเจ้าชายรูปงาม ที่ทรงพระปรีชาและคุณธรรม และตื่นเต้นกับกลยุทธ์การสงครามในท้องเรื่องแล้ว ก็คงจะมีความสงสัยใคร่รู้อยู่ตลอดเวลาที่อ่านว่า เรื่องจริงเป็นอย่างไร? เจ้าชายพระองค์นี้ มีตัวตนจริงในประวัติศาสตร์หรือไม่? และทำไมเวียงวังจึงมาอยู่ที่ใกล้ปราสาทเขาพนมรุ้ง ในเขตแดนไทยนี่เอง ทำไมไม่อยู่ที่ปราสาททั้งหลายในดินแดนเขมรเล่า?
สุริยวรรมัน กล่าวถึง เจ้าชายหนุ่ม พระนามว่า พิษณุหริเกศวร
แห่งราชวงศ์มหิธรปุระ ทรงพำนักอยู่ ณ เมืองที่มีชื่อเดียวกัน อยู่ห่างไกลจากเมืองพระนคร
ศูนย์กลางของราชอาณาจักรแห่งชนเขมร ไปทางตอนเหนือ มีทิวพนมดงเร็กเป็นฉากกั้นให้อยู่กันคนละฝากฝั่ง
เหตุก็เพราะความขัดแย้งแย่งชิงราชบัลลังก์ระหว่างเครือญาติ
ผู้ที่เหนือกว่าก็ได้อำนาจครอบครองมืองพระนคร ผู้ที่อำนาจด้อยกว่าก็ต้องหลบลี้ทำตัวเงียบสงบอยู่
ณ ที่ห่างไกล แต่ก็ใช่จะสยบอยู่เช่นนี้ตลอดไป
ในที่สุดเจ้าชายหนุ่มภายใต้การอบรมสั่งสอนของศทาศิวะทิวากรบัณฑิต พราหมณาจารย์ของราชวงศ์
และพระราชบิดาผู้ทรงบำเพ็ญพรตเป็นวานปรัสถ์ที่เสมือนหันหลังให้กับทางโลก แต่ทว่าปรีชาแห่งกษัตริย์ก็ยังไม่มอดสลาย
... เจ้าชายหนุ่มเติบใหญ่ และเข้าสู่สงคราม นำราชวงศ์มหิธรปุระ
กลับคืนสู่ราชบัลลังก์แห่งเมืองพระนคร และทรงสร้างสิ่งที่โลกต้องจดจำไว้ตลอดกาล
“องฺครวัด” หรือนครวัด นั่นเอง
ดังนั้น เจ้าชายพระองค์นี้ จะเป็นใครไปไม่ได้ นอกจาก
พระเจ้าสุริยวรมันที่ ๒ มหาราช อีกองค์หนึ่งของอาณาจักรเขมร (ครองราชย์ พ.ศ.
๑๖๕๖-๑๖๙๓)
นิยายสร้างปมของเรื่องให้แน่นเข้า ด้วยธรรมเนียมที่ว่า
มเหสีเอกของกษัตริย์หรือในเรื่องเรียกตำแหน่งนี้ว่า “กัมพูชาลักษมี”
ต้องเป็นธิดาจากหัวหน้าเผ่าภวาลัย เท่านั้น เผ่านี้มีอำนาจค้ำจุนราชบัลลังก์
ทำให้แม้แต่ขุนนางระดับสูง รวมถึงพราหมณาจารย์ ยังต้องสมรสกับหญิงชั้นสูงจากเผ่านี้
เพื่อรักษาอำนาจของตนไว้ เผ่านี้มีที่ตั้งอยู่ใกล้เขาพระวิหาร
มีหน้าที่ปกปักษ์รักษาศรีขิเรศวรโดยกลายๆ ใครจะจาริกขึ้นสักการะปราสาทแห่งศิวะเทพ
ย่อมต้องผ่านและได้รับอนุญาตจากเผ่านี้อย่างเลี่ยงไมได้ บนยอดเขาพระวิหารนี้เอง
เป็นจุดยุทธศาสตร์ของเรื่อง เจ้าชายและว่าที่กัมพูชาลักษมี
คู่หมั้นหมายของพระองค์จากเผ่าภวาลัย
ได้ใช้เป็นช่องทางการเข้าถึงเมืองพระนครได้อย่างที่ไม่มีใครคาดคิดมาก่อน
การดำเนินเรื่อง ได้สอดแทรกแนวคิดแห่งปรัชญาพราหมณ์และพุทธ
เคล้าไปกับความเข้มข้นของกลยุทธ์ด้านการสงคราม ทั้งสนุก ตื่นเต้น พร้อมๆ ไปกับความเอมอิ่มในตรรกะทางปรัชญา
และเรื่องราวเกร็ดทางประวัติศาสตร์ ทำให้น่าติดตามและค้นคว้าเพิ่มเติม ตอนท้ายของเรื่องกล่าวถึง การสร้างปราสาทนครวัด
และความสำคัญของธารศักดิ์สิทธิ์บนมเหนทรบรรพต ที่กัมพูชาลักษมีสละชีพของพระนางไว้ที่นั่น
และนี่ก็คงเป็นเหตุแห่งปริศนาที่ทมยันตี ตีความไว้ในนิยายของท่านว่า เหตุใดกษัตริย์ผู้สร้างนครวัดอันยิ่งใหญ่เกรียงไกร
จึงไม่มีรัชทายาทสืบทอด เช่นเดียวกับมหาราชสุริยวรมันที่ ๒
ที่ไม่มีหลักฐานใดระบุถึงพระราชโอรสของพระองค์เลย
นวนิยายเรื่องนี้กล่าวถึง สถานที่สำคัญ ๖ แห่ง ที่อยู่ร่วมสมัยกัน
ได้แก่ มหิธรปุระ, ยโศธรปุระ, ปราสาทเขาพนมรุ้ง, ปราสาทเขาพระวิหาร, มเหนทรบรรพต สถานที่ศักดิ์สิทธิแห่งเทวราชา,
และนครวัด สถานที่ประทับตลอดกาลของสุริยวรมันที่ ๒ แต่ละแห่งมีความเกี่ยวข้องกันอย่างไร
และมีความสำคัญในประวัติศาสตร์เช่นไรบ้าง จะได้นำมาเล่าเป็นลำดับไป
แต่ก่อนอื่น น่าจะได้ทำความเข้าใจกันก่อนว่า เรื่องราวในนิยายกับความเป็นจริงทางประวัติศาสตร์นั้น เหมือนหรือต่างกันอย่างไร พบกันในตอนที่ ๒
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น