เมืองพระนคร

เมืองพระนครแห่งอาณาจักรเขมร ไม่ได้หมายถึง นครวัด นครธม


ที่กล่าวเช่นนี้เพราะ “เมืองพระนคร” ของอาณาจักรเขมร เริ่มสถาปนาขึ้นครั้งแรกในสมัยของพระเจ้ายโศวรมันที่ ๑ (พ.ศ.๑๔๓๒-๑๔๕๓) ทรงย้ายเมืองหลวงจากหริหราลัย มาสร้างเมืองใหม่ใกล้แม่น้ำเสียมเรียบ ทรงให้นามเมืองนี้ว่า “ยโศธรปุระ” ตามพระนามของพระองค์ ซึ่งก็รู้จักกันว่า คือเมืองพระนคร เมืองนี้มีอาณาเขตกว้างใหญ่ มีเขาพนมบาเค็งเป็นจุดศูนย์กลางของเมือง ตามคติจักรวาลวิทยาของศาสนาฮินดูและพุทธศาสนา ที่มีเขาพระสุเมรุเป็นศูนย์กลางจักรวาล ส่วนนครวัดและนครธมนั้น ก็คือเมืองพระนครเช่นกัน แต่เป็นจุดศูนย์กลางของเมืองในยุคหลังคือ สมัยพระเจ้าสุริยวรมันที่ ๒ และ พระเจ้าชัยวรมันที่ ๗ ตามลำดับ


พระเจ้ายโศวรมันกับการสร้างเมืองพระนคร
ภาพจำลองพระเจ้ายโศวรมัน ประทับดูพระนครจากยอดพนมบาเค็ง ภาพโดย Maurice Fievet จาก www.devata.org


      
     ใครเคยไปเที่ยวเมืองเสียมเรียบและเดินขึ้นไปชมบนเขาพนมบาเค็ง คงจะทราบว่าโบราณสถานแห่งนี้ จำกัดการขึ้นชมไม่เกินครั้งละ ๓๐๐ คน เพื่อป้องกันการทรุดตัว ตลอดทางขึ้นมีธรรมชาติร่มรื่น ทิวทัศน์สวยงาม และจากยอดเขาสามารถมองลงมาเห็นปราสาทนครวัดได้เต็มทั้งองค์ พระเจ้ายโศวรมันทรงสร้างปราสาทพนมบาเค็งอย่างเต็มไปด้วยความหมายเชิงสัญลักษณ์ตามความเชื่อของศาสนา อันเป็นเคล็ดวิชาที่จะทำให้อาณาจักรมีความแข็งแกร่ง คือการสร้างโลกของเทพ (เขาไกรลาส) ขึ้นกลางประเทศหมายถึงความมั่งคั่งสมบูรณ์ของอาณาจักร บนยอดสุดมีปราสาทจำนวน ๕ หลัง แสดงถึงยอด ๕ ยอด ของเขาพระสุเมรุ แต่หากมองแต่ละด้านจะเห็นครั้งละ ๓ หลัง หลังกลางสูงกว่าอีกสองหลังด้านข้าง ความหมายคือตรีมูรติ ส่วนปราสาทเล็กใหญ่รวมกันมีทั้งหมด ๑๐๘ หลัง เป็นจำนวนศักดิ์สิทธิ์ที่มีเลข ๑ และ ๘ ปนอยู่ เหมือนกับจำนวนคาถาในคัมภีร์พระเวทที่มี ๑๐,๘๐๐ บท และหากมองดูเฉพาะฐานแต่ละด้าน จะมองเห็นปราสาทเพียง ๓๓ หลัง ซึ่งเท่ากับจำนวนที่ประทับของเทวดา ๓๓ องค์ บนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์
การสร้างเมืองด้วยสัญลักษณ์เช่นนี้ ในสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ ๗ ได้ทำให้เข้มแข็งและหนักแน่นยิ่งขึ้น หลังจากทรงพบว่า แม้เมืองพระนครเดิมจะได้สร้างไว้เป็นเมืองแห่งเทพแล้ว แต่ก็ยังไม่พ้นจากการถูกรุกรานของจาม (โปรดรอติดตามในตอนว่าด้วย พระเจ้าชัยวรมันที่ ๗ และเมืองนครธม) 

ปราสาทพนมบาเค็ง ที่ประทับของเทวดา
ส่วนหนึ่งของปราสาทบนยอดเขาพนมบาเค็ง


            
>> ศาสนาในอาณาจักรเขมร
>> ผังลำดับกษัตริย์เขมร ดูง่าย
     
         อาณาจักรเขมรในสมัยของพระเจ้ายโศวรมันนับว่าขยายกว้างไกลอย่างมาก
  • ทางตะวันตกจรดเมืองมอญที่สะเทิม (สะเทิมเป็นเมืองติดทะเล อดีตคือเมืองหลวงของมอญหรืออาณาจักรสุธรรมวดี ที่ล่มสลายลงใน พศต. ๑๖ เพราะถูกพระเจ้าอนิรุธหรืออโนรธามังช่อแห่งพม่ายกมาตีใน แล้วขนเอาพระไตรปิฏก พระบรมสารีริกธาตุ และพระสงฆ์ ไปพุกาม พร้อมกับจับเอาพระเจ้ามนูหะไปเป็นเชลยด้วย พระเจ้ามนูหะจึงได้สร้างวัดขึ้นที่พุกาม ท่านที่ไปเที่ยวพุกามแล้วคงได้ไปเยี่ยมชมวัดมนูหะ ที่สะท้อนความอึดอัดน้อยเนื้อต่ำใจของพระองค์)
  • ทางตะวันออกเฉียงเหนือ จรดประเทศจีน และจามปา (เวียตนาม)
  • ทางเหนือจรดแคว้นสิบสองปันนา (ปัจจุบันคือมณฑลยูนนานของจีน)
  • ทางตะวันตกเฉียงเหนือ จรดแคว้นเชียงตุง (ปัจจุบันคือรัฐฉานของพม่า)
  • ทางตะวันตกเฉียงใต้ จรดครึหิ หรือไชยา ในคาบสมุทรมลายู
           จะเห็นว่าอาณาเขตของเขมรในเวลานั้นกินพื้นที่ของประเทศไทยในปัจจุบันไว้เกือบทั้งหมด

         ราชวงศ์ของพระเจ้ายโศวรมันที่ ๑ ทรงครอง ยโศธรปุระ ต่อเนื่องมาอีกราว ๗ รัชกาล ถึงพศต. ๑๖ ก็มีกษัตริย์จากดินแดนทางตะวันออกยกทัพมาตี ชิงราชบัลลังก์แห่งยโศธรปุระได้ ทรงสถาปนาราชวงศ์ใหม่ และทรงพระนามว่าพระเจ้าสุริยวรมันที่ ๑ ราชวงศ์นี้ครองเมืองพระนครต่อมาอีกเพียง ๒-๓ รัชกาล ก็สิ้นรัชทายาท ทำให้บัลลังก์ตกอยู่กับพระเจ้าชัยวรมันที่ ๖ ที่เป็นเชื้อสายของราชวงศ์มหิธรปุระ
           ศาสนสถานสำคัญของโลก ที่ได้เกิดขึ้นในช่วงรัชสมัยของพระเจ้าสุริยวรมันที่ ๑ ที่มีช่วงเวลาครองราชย์ค่อนข้างยาวนาน (พ.ศ. ๑๕๔๕ - ๑๕๙๓) ก็คือ ปราสาทเขาพระวิหาร ทรงสร้างเพื่อประดิษฐานศิวลึงค์พระนามว่า “ศรีขรีศวร” ถวายแด่พระศิวะเจ้า 

จากยอดเขาพนมบาเค็งสามาาถเห็นปราสาทนครวัดเต็มองค์
จากยอดเขาพนมบาเค็ง  มองเห็นปราสาทนครวัดเต็มองค์




ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

สุริยวรรมัน : เรื่องจริงเป็นอย่างไร

ถอดความนัยจากนิยายสู่ประวัติศาสตร์ "สุริยวรรมัน"

พระเจ้าชัยวรมันที่ ๗ : เคล็ดวิชาสร้างอาณาจักรเขมร (๑)

มหิธรปุระ

อินเดียที่หนึ่งในดวงใจ